ศิลปินชาวแคนาดา bbno$ (เบบี้ โน มันนี่) ปล่อยอัลบั้มเต็มชุดที่ 9 ที่ใช้ชื่อเดียวกับตัวเองภายใต้ Broke Records/CMG.
โปรเจกต์ที่ประกอบด้วย 21 เพลงนี้ ถือเป็นบทพิสูจน์ความสามารถของbbno$ ในการสร้างสรรค์ดนตรีที่หลากหลาย ขณะเดียวกันก็ยังนำเสนอแนวเพลงแร็ปอันสนุกสนานเปี่ยมพลัง ซึ่งเป็นสไตล์ของเขาที่ทุกคนชื่นชอบเอาไว้ ศิลปินชาวแคนาดาคนนี้โลดแล่นไปในแนวดนตรีหลากหลายตั้งแต่เพลงแดนซ์หนักๆ อย่างเพลง ‘yezzir’ ที่ร่วมโปรดิวซ์กับ Sammy Virji ไปจนถึงเพลงรักสุดละมุนอย่าง ‘main squeeze’ เพลงหลักของอัลบั้มชุดนี้อย่าง ‘bing bong‘ ยังถือเป็นการทำงานในฐานะนักดนตรีครั้งแรกของนักสร้างสรรค์ในโซเชียลมีเดีย Vanilla Mace ในนาม VNLLA มิวสิกวิดีโอประกอบเพลงนี้ เรียกได้ว่าเป็นความบันเทิงชั้นยอด โดยนำเสนอ Mace ที่ต้องสลับบทบาทอย่างหรูหรา เมื่อ bbno$ กลายเป็นพ่อบ้านผู้ภักดีของเธอที่แต่งตัวไร้ที่ติด ภายในกำแพงอันโอ่อ่าของคฤหาสถ์หลังใหญ่ มันคือการเล่าเรื่องผ่านภาพที่สะท้อนอารมณ์ความสนุกสนานของเพลงและความสามารถของ bbno$ ที่ทำอะไรเหนือความคาดหมายได้เป็นอย่างดี

อัลบั้มนี้ยังรวมเพลงฮิตติดหูที่ได้รับความนิยมในโลกออนไลน์ของปี 2025 ได้แก่ ‘1-800’ ที่ทำร่วมกับ V-Tuber Ironmouse, ‘two’ และ ‘it boy’โปรเจกต์นี้มีผู้ร่วมโปรดิวซ์ อย่าง Diamond Pistols (DJ Snake, Rich Brian), Pink Slip (Katseye, Jason Derulo, Ty Dolla $ign, Lauv) และ Y2K (Doja Cat, Young Gravy) พร้อมด้วยผู้มีส่วนช่วยในการเขียนเพลง เช่น Jesse Saint John (Charli XCX, Brooke Candy, The Neighbourhood) และ JBACH (LE SSERAFIM, Anitta, Ava Max)
การปล่อยผลงานครั้งนี้ถือเป็นจุดสูงสุดในปีที่ยอดเยี่ยมสำหรับ bbno$ จากการที่เขามีจำนวนผู้ชมเพิ่มขึ้นจากเดิมกว่าสองเท่า กับยอดผู้ติดตามใหม่ๆ มากกว่า 14 ล้านคนในทุกช่องทางของเขา อัลบั้มนี้ยังเปิดตัวตามหลังแคมเปญโปรโมตอัลบั้มที่กินเวลานานกว่า 6 สัปดาห์ กับการปล่อยซิงเกิลถึง 6 เพลง รวมถึงคอนเทนต์มากมายที่ทำร่วมกับคนดังในโลกออนไลน์ ได้แก่ jschlatt, Vanilla Mace, Jake Webber, Brandon Rogers, TheAnimeMen, Leeda Dong, Smosh, CG5 และ The Content Machineและตอนนี้แคมเปญดังกล่าวสร้างยอดการเข้าชมรวมกว่า 150 ล้านครั้งในทุกแพลตฟอร์ม ยังไม่นับรวมคอนเทนต์ที่แฟนๆ สร้างขึ้นเองอีกด้วย
และในอีก 2-3 สัปดาห์ข้างหน้า bbno$ จะเริ่มต้นการทัวร์คอนเสิร์ตทั่วโลกครั้งใหญ่ที่สุดของเขาที่จะเปิดฉากในวันที่ 31 ตุลาคมนี้ ที่ซิดนีย์ ประเทศออสเตรเลีย การทัวร์ครั้งนี้จะมีมากกว่า 65 โชว์ จนถึงไตรมาสที่ 2 ของปี 2026 ซึ่งบางสถานที่จัดงานที่รองรับผู้ชมได้กว่า 7,000 คนในตลาดหลักอย่าง อเมริกาเหนือ , ยุโรป , เอเชีย และโอเชียเนีย อีกทั้งยังจะแสดงในสถานที่อันเป็นตำนานในแถบอเมริกาเหนือและยุโรป เช่น O2 Academy Brixton ในกรุงลอนดอน รับรองได้ว่านี่จะเป็นปาร์ตี้สุดเดือดอย่างแท้จริง










