BrandThink Cinema แม้จะเป็นค่ายภาพยนตร์น้องใหม่ แต่ต้องบอกว่าชื่อเสียงของ BrandThink ก็เป็นที่รู้จักมานานในฐานะผู้ผลิตคอนเทนต์ทั้งภาพยนตร์โฆษณาและสารคดี เมื่อผู้ผลิตคอนเทนต์คุณภาพสูงหันมาลุยตลาดภาพยนตร์แน่นอนว่า BrandThink Cinema ต้องมีไม้เด็ดมานำเสนอคอหนังชาวไทย
ภายใต้การประเดิมภาพยตร์เรื่องแรกโดยผู้กำกับมากฝีมือ “เอกลักญ กรรณศรณ์” ได้มีแนวคิดที่จะส่งหนังแนว Feel Bad เรื่อง “RedLife” นำเสนอเรื่องราวผ่านคนชนชั้นชายขอบที่อยู่รวมกับผู้คนมากมายในเมืองใหญ่แต่น้อยคนนักที่จะรู้จักสังคมกลุ่มนี้

“สำหรับผมการทำหนังเป็นเรื่อนี้มีความยาก เพราะเราเริ่มต้นนับหนึ่ง แถมยังเป็นคอนเทนต์ที่ยาว เราทำโฆษณามีความสั้น 30 วินาที 1 นาที สูงสุดผมทำสารคดี 10 นาที พอต้องมาเล่าเรื่องราวชั่วโมงครึ่งถึงสองชั่วโมงก็มีความกังวลว่าเราจะเลี้ยงอารมณ์คนดูได้ไหม เขาจะเบื่อไหม ซึ่งเราก็ต้องผสมสานศาสตร์หลายๆ อย่างที่เราเรียนรู้มาเข้าไปอยู่ในภาพยนตร์ให้ได้มากที่สุด”
สาเหตุที่ทำภาพยนตร์แนว Feel Bad เป็นเรื่องแรกของค่าย ผู้กำกับมากฝีมืออมองว่า ยุคนี้เป็นยุคที่คนดูหนังเปิดกว้าง จะเสพหนังหลายแบบ ทั้งคนทำหนังและคนเสพหนังก็กำลังมองหาสิ่งใหม่ มองหารสชาติใหม่ๆ ไม่ว่าจะเล่าเรื่องราวแบบ Feel Good หรือ Feel Bad “เอกลักญ กรรณศรณ์” มองว่ามันคือความบันเทิงรูปแบบหนึ่ง

“หนังเรื่องนี้เป็นหนังรักที่มีรสชาติต่างออกไป อย่างเมื่อก่อนเรามีหนังที่สะท้อนสังคมอย่าง เสียดาย แล้วก็จะหายไปในช่วง 2-3 ทศวรรษ ผมก็เลยรู้สึกว่าอยากทำหนังรักวัยรุ่นที่นำเสนอปัญหาของสังคม เล่าเรื่องผ่านคนชนชั้นชายขอบ ซึ่งน่าจะเป็นเรื่องที่น่าสนใจดี แล้วเราก็ชวนนักแสดงที่มีชื่อเสียงลงมาเปลี่ยนแปลงตนเอง ผสมผสานกับนักแสดงรุ่นใหม่ทั้งคนที่ไม่เคยเล่นหนังมาก่อน
“การได้มาทำหนังเรื่องนี้ถือเป็นการเปิดโลกทัศน์ของผมด้วยนะครับ เวลาผมจะทำโปรเจกต์อะไรผมไม่ได้มีเรื่องที่จะเล่าด้วยตนเอง ผมต้องลงไปหาคำตอบ ซึ่งเราก็คิดว่าถ้าคำตอบนี้ได้แชร์ออกไปให้คนดูก็เป็นเรื่องที่ดี”
ถึงแม้ว่าภาพยนตร์เรื่องแรก “RedLife” จะยังไม่เข้าฉาย แต่ BrandThink Cinema ก็มีโปรเจกต์ที่กำลังดำเนินการ ไม่ว่าจะเป็น “ลับแลแก่งคอย” ที่อยู่ในขั้นตอนเขียนบท รวมถึง “อินทรีย์แดง” ที่เอามาตีความใหม่ และอีกหลายผลงานที่เตรียมการผลิตให้แฟนๆ ได้ติดตามอีกมากมาย
